เชื่อได้เลยว่าหลายคนในที่นี้คงประสบกับปัญหาพุงยื่น พุงกลม อ้วนลงพุง ที่ทำให้หมดกำลังใจ จะหยิบจับเสื้อผ้าชิ้นไหนมาสวมใส่ก็ไม่น่ามองเอาเสียเลย ครั้นจะให้ออกกำลังกายลดน้ำหนักวันละ 30 – 45 นาทีตามตำราก็คงไม่ไหว เพราะเพียงลำพังสู้รบปรบมือกับการทำงาน แถมยังต้องฟันฝ่าการคมนาคมที่แสนลำบากในแต่ละวันก็เล่นเอาพลังงานที่มีอยู่เกินลิมิต ดังนั้นคำว่า ‘ไม่มีเวลาออกกำลังกาย’ จึงไม่ใช่ข้ออ้างแต่อย่างใด หากใครไม่มายืนอยู่จุดเดียวกันคงไม่รู้หรอกจริงไหมสาว ๆ
แต่หมดห่วงไปได้เลย เพราะวันนี้ Slim Up Center มีวิธีลดพุงเร่งด่วนสำหรับคนไม่มีเวลามาบอกต่อ! รับรองว่าช่วยให้หน้าท้องเรียบแบน เตรียมบอกลาการแขม่วหน้าท้องไปได้เลย แต่ก่อนจะไปดูสูตรลดเอวลดพุงเร่งด่วน เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าจริง ๆ แล้วพุงเกิดจากอะไร? และนอกจากเรื่องของความสวยงามแล้ว พุงยังเป็นปัญหาที่ทำให้คนมีความเสี่ยงเรื่องอะไรบ้าง
จริงหรือไม่? ผอมแต่มีพุงเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตมากกว่าคนอ้วน
พุงเกิดมาจากการสะสมของไขมันที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และปัจจัยที่ทำให้มีไขมันสะสมมักเกิดมาจากการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ออกกำลังกายเป็นเวลานาน หรือแม้แต่พุงหลังคลอด
ซึ่งพุงจะแบ่งเป็นหลายแบบแตกต่างกัน ได้แก่ พุงกลม พุงเครียด พุงหมาน้อย พุงป่อง และพุงคนท้อง และทุกคนรู้หรือไม่ว่าการมีพุงหรือไขมันรอบเอวมากกว่าปกติ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับกลุ่มคนอ้วนเท่านั้น เพราะแม้แต่คนผอมก็มีโอกาสด้วยเหมือนกัน
ประเด็นนี้อ้างอิงจากผลการวิจัย ที่พบว่าผู้ที่มี น้ำหนักตัวปกติ แต่อ้วนลงพุงและมีไขมันหน้าท้องมาก มีแนวโน้มเสียชีวิตจากโรคต่าง ๆ ได้มากกว่าคนอ้วน โดยผลวิจัยนี้ถูกนำเสนอใน European Society of Cardiology เมื่อปี 2012 ที่ได้มีการเก็บตัวอย่างผู้ป่วยจำนวน 12,785 คน เป็นระยะเวลา 14 ปี เพื่อคำนวณหาค่า BMI และแน่นอนว่าการศึกษาในครั้งนี้พบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ แต่มีขนาดรอบเอวมาก มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรง มากกว่าคนที่มีน้ำหนักตัวปกติและขนาดรอบเอวปกติถึง 2.1 เท่า! มิหนำซ้ำปัญหาไขมันรอบเอวยังเป็นบ่อเกิดของโรคร้าย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม โรคที่เกี่ยวกับปอด เป็นต้น
ดังนั้นใครที่มีความเสี่ยงต่อภาวะอ้วนลงพุง ไขมันรอบเอวหนา จำเป็นต้องลดน้ำหนักเร่งด่วนแบบสุขภาพดี ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตประจำวัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่าง ๆ ที่พรากความสุขและอาจถึงขั้นพรากชีวิตของคุณไปจากคนรัก และวันนี้แน่นอนว่าเรามีวิธีลดพุง สำหรับคนไม่มีเวลามาบอกต่อ หากพร้อมแล้วเตรียมทำตามกันได้เลย
อันตรายและโรคที่มาพร้อม “อ้วนลงพุง”
ไขมันช่องท้องสาเหตุของอ้วนลงพุง ผลการวิจัยพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ แต่คนอ้วนลงพุง มีไขมันหน้าท้องมาก มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตจากโรคต่าง ๆ มากกว่าคนอ้วนซะอีก
ผลวิจัยนี้ถูกนำเสนอใน European Society of Cardiology เมื่อปี 2012 โดยเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 12,785 คน ตลอดระยะเวลา 14 ปี คำนวณหาดัชนีมวลกายหรือค่า BMI ซึ่งเป็นอัตราของไขมันในร่างกายต่อความสูง และอัตราส่วนของเอวต่อสะโพกเพื่อหาอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ
ผลการศึกษาพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ แต่มีขนาดรอบเอวมาก มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคต่าง ๆ มากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติและขนาดรอบเอวปกติ 2.1 เท่า
อ้วนลงพุง อย่านิ่งนอนใจเพราะมาพร้อมอันตรายและโรค กับ 5 โรคที่มาพร้อมกับไขมันรอบเอวดังนี้
1. ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่
มีผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่อ้วนลงพุงนั้นจะทำให้การทำงานของปอดลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีสุขภาพดี ไม่สูบบุหรี่ และไม่มีไขมันหน้าท้อง ผลการวิจัยนี้พบว่าผู้ที่มีไขมันส่วนเกินทำให้อัตราการหายใจลดลง ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นเป็นเวลานาน ทำให้ทางเดินหายใจหดแคบลง และก่อให้เกิดโรคปอดเรื้อรังอย่างหอบหืดตามมาได้
2. การทำงานของหลอดเลือดผิดปกติ
จากผลการศึกษาปี 2012 พบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่อ้วนลงพุงกับภาวะการเกิดโรคหลอดเลือดตีบตันและภาวะหลอดเลือดแข็งตัว โดยนักวิจัยได้เปรียบเทียบระหว่างคนอ้วน คนอ้วนที่มีพุงและคนที่มีสุขภาพดีพบว่า
หากอัตราส่วนของเอวต่อความสูงเพิ่มขึ้นทุกๆ 0.1 ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดภาวะดังกล่าวมากขึ้น
ดังนั้น ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะดังกล่าว และการที่เส้นเลือดแดงแข็งตัวและตีบนั้นก็จะก่อให้เกิดโรคหัวใจตามมาได้
3. เสี่ยงต่อเบาหวาน
ไขมันในช่องท้องเป็นไขมันที่พบในคนที่มีภาวะอ้วนลงพุง ไขมันนี้มีการผลิตฮอร์โมนซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย
นอกจากนี้ฮอร์โมนดังกล่าวยังทำให้ตัวรับสัญญาณอินซูลินทำงานผิดปกติ ซึ่งหมายความว่าอินซูลินซึ่งเป็นตัวควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายจะทำงานด้อยลง ทำให้เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นนั่นเอง
4. ระดับคอเลสเตอรอลสูงและโรคหัวใจ
ไขมันที่อยู่บริเวณขาหรือก้นนั้นเป็นไขมันที่มีการเผาผลาญที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าไขมันบริเวณหน้าท้องของคนอ้วนลงพุง ซึ่งสาเหตุที่การเผาผลาญไขมันบรัเวณนี้ดีกว่าเนื่องจากได้ระดับน้ำตาล ไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล และอินซูลินต่ำกว่าไขมันที่เผาผลาญจากบริเวณช่องท้อง
นอกจากนั้นไขมันในช่องท้องสามารถเปลี่ยนเป็นกรดไขมันอิสระ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายผลิตคอเลสเตอรอล LDL (ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ) นอกจากนั้นกรดไขมันอิสระยังทำให้ระดับของไขมันดีหรือคอเลสเตอรอล HDL ลดลง ซึ่งไขมันเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อการทำงานของหลอดเลือด แต่ยังทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจวายตามมาได้
5. เสี่ยงโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์
ผลการศึกษาในปี 2010 พบว่ายิ่งรอบเอวคุณหนามากเท่าไหร่ รวมทั้งยิ่งอ้วนลงพุงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์มากขึ้นเท่านั้น โดยจากการศึกษาพบว่าผู้อ้วนลงพุงทำให้เซลล์สมองน้อยกว่าคนปกติ ซึ่งก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ตามมาได้
โดยสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าไขมันจะไปอุดตันในเส้นเลือดทำให้เลือดไหลเวียนขึ้นไปเลี้ยงเซลล์สมองไม่สะดวก สมองจึงขาดออกซิเจน และทำให้เซลล์ตายนั่นเอง
วิธีลดพุงเร่งด่วนสำหรับคนไม่มีเวลา
สำหรับวิธีลดพุงเร่งด่วน ภายใน 1 อาทิตย์ ฉบับคนไม่มีเวลา โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ สามารถทำได้หลายวิธี สำหรับคนที่อยากลดหน้าท้องแบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน แนะนำให้เน้นไปที่การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการดูแลระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นเวลา ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้
1. ฝึกแขม่วหน้าท้องเป็นประจำ
อยากลดส่วนไหนก็ต้องบริหารส่วนนั้นบ่อย ๆ ดังนั้นหากต้องการลดห่วงยางรอบเอว ก็ต้องมีการออกกำลังกายบริเวณนั้นถูกไหม? สำหรับวิธีง่าย ๆ ของคนไม่มีเวลาออกกำลังกาย เพียงแค่แขม่วหน้าท้องเป็นประจำ ทำได้ตลอดเวลาทั้งตอนนั่ง ยืน หรือเดิน เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้พุงยุบลงได้และช่วยให้หุ่นเฟิร์มได้สัดส่วนขึ้น
2. ดื่มชาเขียวลดไขมันหน้าท้อง
ชาเขียว (Green Tea) เป็นวิธีลดหน้าท้องที่ห้ามพลาด หากถามว่าชาเขียวเกี่ยวข้องกับการลดไขมันหน้าท้องอย่างไร a sweet pea chef ได้ระบุว่า ชาเขียวประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยเร่งการเผาผลาญ หากต้องการลดน้ำหนักแนะนำให้ดื่มชาเขียวในช่วงก่อนออกกำลังกาย จะช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมชาเขียวร้อน ๆ ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีอีกด้วย
3. กินกรีกโยเกิร์ตก่อนนอนทุกวัน
กรีกโยเกิร์ตอุดมไปด้วยโปรตีนและ Casein ที่ช่วยให้อิ่มท้องตลอดทั้งคืน ทั้งยังช่วยลดความอยากอาหารในเช้าวันถัดไป แต่หากต้องการลดปริมาณน้ำตาลให้เลือกสูตรธรรมชาติ แล้วใช้วิธีเติมความหวานด้วยผลไม้แคลอรี่ต่ำอย่างผลเบอร์รี่หรือเชอร์รี่สดแทน
4. หลีกเลี่ยงของทอด
แม้ว่าเมนูอาหารทอดจะเย้ายวนน่ากินขนาดไหน แต่โปรดรู้เอาไว้ว่าของทอดเป็นตัวการร้ายที่เข้าไปขัดขวางการลดน้ำหนัก! เพราะเป็นเมนูที่มีแคลอรี่สูง ที่สำคัญวิธีการทอดยังทำให้อาหารสูญเสียวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นเพียงไขมันทรานส์ที่เป็นอันตราย ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้ส่งผลแค่กับความอ้วนหรือไขมันหน้าท้องเท่านั้น แต่ยังทำร้ายสุขภาพโดยรวมอีกด้วย
5. ลดกินแป้งและน้ำตาล
แป้งและน้ำตาลเป็นตัวการที่ทำให้พุงยื่น พุงย้อย หรือมีไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะการกินแป้งที่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว น้ำตาลทรายขาว ฯลฯ ที่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลอย่างรวดเร็ว และเมื่อร่างกายดูดซึมไปใช้งานไม่ทันก็จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง แขน และขา
6. ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 2 ลิตร
การดื่มน้ำเปล่าดูเหมือนง่าย แต่เอาจริง ๆ กลับไม่เพลิดเพลินเท่ากับการดื่มน้ำหวานเย็นชื่นใจหรอกจริงไหม? แต่ถึงอย่างไรการดื่มน้ำสะอาดระหว่างวันเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะน้ำช่วยคลีนไขมันและแบคทีเรียในช่องท้องได้ดี แถมการดื่มน้ำประมาณวันละ 2 ลิตรยังช่วยลดความอยากอาหาร ผิวพรรณกระจ่างใส และยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกายด้วยนะ
7. เดินย่อยอาหาร
การเดินย่อยอาหารช่วยเผาผลาญการสะสมไขมันหน้าท้อง สะโพก และต้นขา ที่สำคัญไม่จำเป็นเลยว่าต้องเดินแบบเอาจริงเอาจัง เพียงแค่เดินเล่น ๆ ผ่อนคลายไปเรื่อย ๆ ก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าการเดินย่อยอาหารประมาณ 15 นาที ยังช่วยลดระดับน้ำตาลให้ต่ำลงอีกด้วย ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดแนะนำเป็นหลังมื้อเย็น
8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนไม่ครบ 6 – 8 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากจะทำให้เหนื่อย อ่อนเพลียแล้ว ยังเสี่ยงต่อความอ้วนด้วย ซึ่งได้ระบุถึงงานวิจัยชิ้นหนึ่งว่าการนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงจะทำให้น้ำหนักเกิดการเปลี่ยนแปลง ในเด็กเสี่ยงเป็นโรคอ้วน 89% และในผู้ใหญ่เสี่ยง 55% ที่สำคัญการนอนเพียงวันละ 5 ชั่วโมงติดต่อกันมากกว่า 5 คืน ยังทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเกือบ ๆ 1 กิโลกรัมเลยล่ะค่ะ
9. ออกกำลังกายคาร์ดิโอเร่งเผาผลาญ
การออกกำลังกายคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) ช่วยให้ปอดและหัวใจทำงานดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดไขมันหน้าท้อง สำหรับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอมีหลายแบบ เช่น การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ การวิ่ง การกระโดดเชือก เป็นต้น (เลือกให้เหมาะสมกับรูปร่างของแต่ละคน)
10. โปรแกรมลดพุงเร่งด่วน ด้วยคลื่นสลายไขมัน CELLUSLIM TECH
สำหรับผู้ที่มีปัญหาพุงยื่น พุงกลม อ้วนลงพุง แล้วกำลังมองหาวิธีลดพุงเร่งด่วน เราขอแนะนำ CELLUSLIM TECH เลยค่ะ
เพราะว่า CELLUSLIM TECH สามารถลดได้ด้วยคลื่น โปรแกรมปรับเปลี่ยนรูปร่างด้วยนวัตกรรม 2IN1 ผสานคลื่นความร้อน Thermic IR ซึ่งเป็นระบบฟาร์อินฟราเรดส่งผลให้เกิดความร้อนลึก (Deep-thermal) กับ ระบบแรงดูดสูญญากาศ (Vacuum) ใช้เวลา 40 นาที ทำให้เกิดการหดตัว / คลายตัวกับผิวหนัง และ กล้ามเนื้อ เกิดการ Decompress คล้ายคลึงกับ Massage ซึ่งส่งผลให้เกิดการลดและลดเซลลูไลท์กระตุ้นระบบการขับเสียของเซลร่างกาย ลดการบวมน้ำ ปรับปรุงและฟื้นฟูระบบไหลเวียนของโลหิตและระบบน้ำเหลือง กระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อได้มีประสิทธิภาพ
1. คลื่น Thermic IR (Far Infrared)
ลดสัดส่วนพร้อมยกกระชับผิว
ลดเซลลูไลท์ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
กระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือดและน้ำเหลืองและคลายตัวของกล้าม
เพิ่มการไหลเวียนเลือด
กระตุ้นการขับของเสีย
2. ระบบแรงดูดสูญญากาศ (Vacuum)
ช่วยลดเซลลูไลท์
ลดการหดรั้งของผังผืดและเนื้อเยื่อต่างๆ
กล้ามเนื้อคลายตัว
กระตุ้นการจัดเรียงตัวของคอลลาเจน และอิลาสติน
ช่วยทำให้คลื่น Thermic IR ลงสู่ชั้นผิวได้ลึกมากขึ้น
หากคุณเป็นคนอ้วนลงพุง อยากลดน้ำหนักเพื่อให้มีสุขภาพดีและลดอาการเสี่ยงของโรคต่าง ๆ นั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะว่าต้องออกกำลังกายเพื่อกำจัดไขมันในช่องท้องเหล่านี้ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีไขมันต่ำ จะสามารถช่วยได้
ติดตามบทความเกี่ยวกับการลดน้ำหนักและการออกกำลังกายที่น่าสนใจได้ที่
ปรึกษาลดน้ำหนัก ไขมัน และ สัดส่วน ทักแชท
หุ่นสวย สุขภาพดี เริ่มต้นที่ Slim Up Center พร้อมให้คำปรึกษาและบริการทั้ง 18 สาขาทั่วประเทศแล้ววันนี้
Contact Us
FB : http://m.me/SlimUp/
Line : https://bit.ly/Slimupcenter หรือ @Slimupcenter
Website: https://www.slimupcenterth.com/
Call Center : 02-620-0000
Comments